NAJA HATYAI
泰国合艾哪吒三太子宫
ศาลเจ้าเทพนาจา หาดใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2544 โดยการเช่าที่ดินของ คุณวิภาวัลย์ ดีเป็นธรรมเป็นเนื้อที่จำนวน 5 ไร่ และได้ทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเดิมทีที่ดินผืนนี้เป็นภูเขา ดินลูกรัง ซึ่งเจ้าของที่ดินได้นำขุดดินไปทำธุรกิจ ซึ่งก่อนที่จะมีการให้เช่า สภาพที่ดิน มีหินน้อย-ใหญ่ เป็นจำนวนมาก บางลูกขนาดเท่ารถกระบะ แถมพื้นที่มีสภาพเป็นหน้าผา หลุมลึกบ้าง มีต้นไม้ใหญ่น้อย พูดกันง่ายๆ ว่า ถ้าใครคิดจะเอาสถานที่ตรงนี้ไปทำธุรกิจและการลงทุน บอกได้คำเดียวว่า นอนคิดสัก 10 ปีก็ยังไม่สาย ว่ายังงั้นเถอะ
แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสวรรค์ลิขิตหรือบารมีขององค์เทพนาจา ดลจิตดลใจให้ข้าพเจ้าเห็นผืนที่ดินผืนนี้ คิดชอบ ทั้งที่พูดตรงๆ ว่าในสมองของข้าพเจ้า ยังคิดอะไรไม่ออกเลย ว่าเช่าที่ดินผืนนี้มาแล้วจะทำอย่างไร ไหนเงินที่จะเช่าที่ดินก็ยังไม่มี ส่วนที่คิดว่าจะปรับที่และการก่อสร้างพร้อมองค์เทพนาจา ที่ได้จัดสร้าง ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ยังขาดปัจจัยอีกมากซึ่งรออยู่ทางกรุงเทพฯ ค่างวดในการจัดสร้างอีกไม่กี่วันก็ถึงอีกแล้ว อีกใจหนึ่งก็ คิดว่า 3 ชาติ 7 ชาติก็คงไม่มี ปัญญาทำได้สำเร็จ อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนแรกงัยล่ะครับว่า ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสวรรค์ลิขิต หรือบุญบารมีขององค์เทพนาจา ทำให้ข้าพเจ้าได้ยินเสียงลึกลับเข้ามา ในโสตประสาท ของข้าพเจ้า เสียงแรกที่ข้าพเจ้าได้ยิน เป็นเสียงของเด็กๆ เสียงเล็กและแหลม ซึ่งข้าพเจ้าจำได้ดีว่าเสียงนั้นเป็นเสียงขององค์เทพนาจา
ซึ่งท่านได้ประทับทรงในร่างของข้าพเจ้าและร่วมสร้างบุญกุศลกันมากว่า 20 ปีเศษและให้การชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหาและประกอบธุรกิจพร้อมช่วยเหลือ ทั้งผู้คนที่เดือดร้อนทั้งทางกายและทางจิตใจด้วยดีตลอดมา เสียงที่ข้าพเจ้าได้ยินจับใจความได้ว่า “ทำไปเถิดท่านจะอยู่กับข้าพเจ้าไปตลอด ไม่ต้องกลัว”พร้อมกับมี ความรู้สึก ว่ามีมือมาตบที่บ่าเบาๆ เสมือนให้กำลังใจ ให้ข้าพเจ้าสู้ต่อไป หลังจากนั้นประมาณ 10 กว่านาที ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงที่ลอยมาตามลม เสียงนั้นเป็นเสียงผู้ชาย สูงอายุฟัง แล้วน่าศรัทธา “ทำเลยลูก” ฟังแล้วข้าพเจ้าขนลุกซู่ไปทั้งตัว ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายโมงเศษๆอากาศร้อนมากซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะทำให้ข้าพเจ้ามีอาการ หนาวสั่นตามธรรมชาติ
ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าได้ยืนอยู่บนเนินเขาที่ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานของรูปเหมือนองค์เทพนาจาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้ายืนอยู่ร่วมกับสมาชิก คณะศิษย์และเพื่อนฝูงประมาณ 6-7 คน ประกอบด้วย คุณ เทพพิทักษ์ (น้องจอห์น) ซึ่งเป็นเจ้าของ โรงแรมกนกอินท์จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านผู้นี้เปรียบเสมือนมือขวาของข้าพเจ้า ร่วมทุกข์ร่วมสร้างเกี่ยวกับองค์เทพนาจามาด้วยกันตลอด, Mr. Mark ชาวสิงคโปร์ (เพื่อน), ลุงประเสริฐเจ้าของร้านประเสริฐยนต์ หาดใหญ่พร้อมด้วย คุณอนันต์ จันทรัตน์ เจ้าของบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ มติไทย และคุณถวิลซึ่งเป็นนายหน้าติดต่อเจ้าของที่ดินผืนนี้ให้กับข้าพเจ้า
หลังจากเหตุการณ์นั้น ข้าพเจ้าได้พูดกับนายหน้าว่าจะตกลงเช่าที่ดินผืนนี้สร้างศาลเจ้าเทพนาจาทุกคนได้ฟังและยิ้มทำหน้างงกันไปหมด เพราะทุกคนรู้ดีว่า ค่าเช่า ค่าปรับพื้นที่พร้อมค่าก่อสร้างต้องลงทุนมิใช่น้อย แต่ทุกคนมิได้คัดค้านอะไร อาจเป็นเพราะแรงศรัทธาที่มีต่อองค์เทพนาจา และอยากจะได้สร้างศาลเจ้าเทพนาจาให้เสร็จดังแรงศรัทธา ทำให้ทุกคนรู้สึกมั่นใจและเชื่อใจในตัวข้าพเจ้า หลังจากนั้นประมาณ2 สัปดาห์ ข้าพเจ้าได้ ไปทำสัญญาเช่าที่ดินผืนนี้กับคุณปัญญาและคุณแม่ของคุณปัญญาซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากครอบครัวนี้เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งได้ทำสัญญาเช่าที่ดินผืนนี้ ในการทำสัญญาได้ทำการตกลงเช่าเป็นระยะเวลา 10 ปี และต่ออีก 10 ปี โดยจ่ายค่าเช่าเป็นงวด 3 เดือนครั้งตกเดือนละ 20,000 บาทในการเช่า แถมอนุญาต ให้ใช้สอยพื้นที่ในการจัดงานทุกครั้ง หลังจากทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ดำเนินการก่อสร้าง โดยมี Mr. Bee ชาวมาเลเซีย รัฐกัวลาลัมเปอร์ ได้มาเป็นผู้อุปถัมภ์ทางด้านการเงินและคุณเทพพิทักษ์ ลีลัคนาวีระ ได้สมทบทุนทางด้านการเงิน และเสียสละแรงกายในการร่วมก่อสร้างศาลเจ้า และอีกบุคคลหนึ่งที่จะลืมเอ่ยชื่อเสียมิได้คือ คุณเสริญ ปานะบุตร และภรรยา ได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านน้ำและไฟ ไว้ใช้สอยในการก่อสร้างตลอดจนปัจจุบันนี้
การก่อสร้างแล้วเสร็จรวมระยะเวลา 2 เดือนเศษโดยเร่งมือในการก่อสร้างทั้งวันทั้งคืน พูดกันง่ายๆ ว่าจ้างช่างน้อยที่สุด และได้ความร่วมมือจาก
1. คุณเทพพิทักษ์และคุณกรกนกลีลัคนาวีระ 2. คุณเสริญ ปานะบุตร 3. น้องจอมและน้องกบ ภรรยา 4. น้องแซม 5. น้องเล็ก
6. กลุ่มคนหูหนวก (คนใบ้) ประมาณ 10 คน เช่น คุณไวยวุฒิ ณ ลำปาง , คุณปัญญา รามแก้ว , คุณภูริทัติ นามแปะสันว , คุณเอกรินทร์ พูลกาญจน์
ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ได้ตรากตรำทำงานหามรุ่งหามค่ำ ฝนตกฟ้าร้องก็มิย่อท้อ จนทันกำหนดการที่รูปเหมือนองค์เทพนาจา ในวันที่ 15 กันยายน 2544
จะมาประดิษฐาน และอีกหนึ่งเดือนต่อมาได้จัดพิธีกรรมประเพณีถือศีลกินเจถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลา 1 ปี เศษ
NAJA HATYAI
泰国合艾哪吒三太子宫
ศาลเจ้าเทพนาจาหาดใหญ่ บ้านเกาะหมี
องค์เทพนาจาซาไท้จื้อ
และ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
NEW UPDATE
contact